รู้จักGoogle AdWords

                        Google AdWords


Google AdWords คือ โฆษณาในรูปแบบ Pay Per Click ข้อดี คือ เสียค่าใช้จ่ายตามจริง เมื่อผู้ใช้บริการค้นหาข้อมูลคลิกเข้าชมเว็บไซต์ของคุณเท่านั้น และโฆษณาจะปรากฏให้ผู้ชมเห็นตามคีย์เวิร์ด(Keywords) หรือ กลุ่มคำที่คุณเลือกไว้ซึ่งเป็นคำที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ

ค่าใช้จ่ายการลงโฆษณาผ่าน Search Engine ในรูปแบบ Cost Per Click ของแต่ละแคมเปญจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับกลุ่มคำหรือคีย์เวิร์ดที่เลือกใช้ คีย์เวิร์ดคำใดที่เป็นที่นิยม และมีคู่แข่งขันเป็นจำนวนมาก ค่าใช้จ่ายต่อการคลิก 1 ครั้งก็จะเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย นอกจากนี้ ยังขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ เช่น ความชำนาญในการเลือกคีย์เวิร์ดและการเจาะจงกลุ่มเป้าหมาย ช่วงระยะเวลาและความต่อเนื่องของแคมเปญ จำนวนชิ้นงานโฆษณาของแต่ละแคมเปญ ระบบการดูแลบริหารแคมเปญ เพื่อให้เกิดราคาต่อคลิกที่มีประสิทธิผลสูงสุด ทั้งหมดล้วนส่งผลถึงงบประมาณที่ใช้ในการโฆษณาทั้งสิ้น
สมัคร Google AdWords
สมัครที่ลิ้งค์นี้นะ http://adwords.google.co.th/select/Login
เนื่องจากเราพอจะทราบกันดีอยู่แล้วครับว่า ปัจจุบัน Google มีอิทธิพลกับโลก Online อย่างไรบ้างมาบ้างแล้ว แต่เราล่ะในฐานะคนที่อยู่ในโลก Online เหมือนกันซึ่งนอกจากเราจะใช้ Google ในการค้นหาข้อมูลแล้ว Google ยังทำอะไรได้อีก
  • เราสามารถใช้ Google เป็นตัวเชื่อมธุรกิจของเราไปสู่ผู้บริโภค ได้ทั้งในและนอกประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ตลาดไม่ได้อยู่แค่วงจำกัดและเราสามารถใช้ Google เลือกตลาดใหม่ๆได้ตลอดเวลา
  • ค่าโฆษณาสามารถเลือกจ่ายได้ว่าจะโฆษณาก่อนจ่ายทีหลัง หรือแบบเติมเงินก็ได้ และจ่ายต่อเมื่อมีคนคลิกเข้ามาเท่านั้น ทำให้คุ้มกับเงินที่จ่ายออกไป
  • สามารถวัดผลและปรับปรุงได้ง่ายจากข้อมูลที่เป็นตัวเลข หลังจากที่ทราบว่าเราสามารถที่จะทำโฆษณา ออกสู่สายตาของคนทั่วประเทศหรือทั่วโลกได้อย่างไรแล้วก็ เริ่มต้นเปิดบัญชีกับ AdWords ซึ่งมีค่าเปิดเพียง $5 หรือ ประมาณ 200 บาท เท่านั้นเอง ซึ่งเป็นเงินเล็กน้อยมากเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพและผลตอบรับที่เราจะได้
ทำไมต้องใช้บริการ Google AdWords
• Google 
เป็น Search Engine ที่มีส่วนแบ่งการตลาดมากที่สุดของโลกในขณะนี้ และยังมีส่วนแบ่งการตลาดของ Search Engine รายอื่นๆ ที่เป็นพาร์ทเนอร์กับ Google อีกมาก เช่น
และอื่นๆอีกมากมาย ดังนั้นโฆษณาของคุณมีโอกาสสูงทีเดียวที่จะเข้าถึงเว็บไซด์ชั้นนำของโลกเหล่านี้ได้ 
• 
ภายใน 15 นาที โฆษณาของคุณจะปรากฎอยู่ในเว็บไซด์ของ Google และเครือข่ายเว็บไซด์ของคุณจะได้รับทราฟฟิกทันที 
• 
สามารถกำหนดงบประมาณประจำวันได้ 
• 
กำหนดลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้ชัดเจน เช่น ประเทศ ภาษา เมือง
• 
กำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อย่างชัดเจน
• 
แก้ไข Keyword และเปลี่ยนข้อมูลโฆษณาได้ โดยโฆษณาที่แก้ไขแล้วจะแสดงผลในทันที
หากคุณเป็นเจ้าของเว็บไซด์ ที่กำลังขายสินค้าและบริการอยู่ อย่ารอช้าที่จะเรียนรู้โปรแกรม Google AdWordsเพราะโปรแกรมนี้จะทำให้ คุณและลูกค้า มาเจอกันได้โดยตรง แค่ลูกค้าคุณพิมพ์ คำ ? (keywords) ที่เกี่ยวข้อง กับบริการหรือสินค้าคุณ โฆษณาเว็บของคุณ ก็จะปรากฎขึ้นอยู่ด้านบนสุด หรือฝั่งขวามือทันที (ในภาพ)
ทำไม คุณถึงต้องทำโฆษณากับกูเกิ้ล นะเหรอง่ายมากครับ เพราะในประเทศไทย พบว่า คนไทยใช้Google.com ในการค้นหาข้อมูลสินค้าและบริการต่างๆถึง 98% ดังนั้นถ้าหากโฆษณาเว็บไซต์สินค้าของคุณไปปรากฏบน Google.com ได้ ก็จะช่วยเพิ่มลูกค้าอย่างมากมาย มหาศาล
มี วิธี ที่คุณจะลงโฆษณาเว็บคุณ ให้ปรากฎบนเว็บ Google.com ได้คือ
1. คุณ จ่ายเงินให้กับบริษัท หรือตัวแทนโฆษณา ที่รับโปรโมทเว็บผ่านโปรแกรม Google AdWords
2. คุณ ลงมือทำ ด้วยตัวของคุณเอง บนโปรแกรม Google AdWords
1. พยายามใส่ Keywords ไว้ในตัวโฆษณา – เราจะต้องแสดงให้กับผู้ที่ค้นหารู้ว่าตัวโฆษณาของเรานั้นสัมพันธ์กันกับสิ่งที่เค้ากำลังค้นหาอยู่ โดยใส่ Keywords ไว้ในตัวโฆษณาของเราด้วย เพราะว่าทาง Google จะแสดงคีย์เวิร์ดนั้นเป็นตัวหนา แล้วก็จะทำให้ตัวโฆษณาของคุณเห็นมากกว่าของคนอื่นครับ

2. 
ใช้ Keywords ในแต่ละ Group ไม่มาก – การที่เราใช้ Ad Group แค่ตัวเดียวโดยที่มี Keywords เยอะๆประมาณ1,000 – 2,000 ตัว ไม่เป็นการดีครับ เพราะว่ามันจะทำให้เรามี CTR ที่ต่ำ แล้วก็จะยากต่อการกำหนดกลุ่มเป้าหมาย ทางที่ดีควรจะแยก Keywords ที่คล้ายๆกันอยู่ในกลุ่มเดียวกัน และถ้าหากทำแบบนี้แล้วก็จะสามารถทำตามเทคนิคข้อที่ ได้ด้วยครับ

3. 
ใส่ Bid ในตอนเริ่มโฆษณาให้สูงๆ – เนื่องจากว่าทาง Google นั้นจะจัดอันดับโฆษณาจากราคา Bid และ CTR เพื่อที่จะทำให้ CTR ของเราสูง เราจะต้องใส่ราคา Bid ในตอนเริ่มทดลองสินค้าตัวใหม่ให้มากๆก่อน เพื่อที่จะให้โฆษณาของเราอยู่อันดับ 1 – 8 จากนั้น CTR ของเราจะสูงขึ้นแล้วก็ CPC ของเราจะลดต่ำลงเองครับ

4. 
ตั้งอัตราค่าโฆษณาต่อวันให้สูงกว่าที่ทาง Google แนะนำ – ถ้าเราตั้งค่าโฆษณาต่อวันน้อยเกินไป โฆษณาของเราอาจจะแสดงไม่ตลอดทั้งวัน และแน่นอนครับเมื่อลูกค้าที่กำลังต้องการสินค้าที่เราขายอยู่เข้ามา แล้วไม่เจอโฆษณาของเรา เราก็จะเสียโอกาสนี้ไป วิธีการลดปริมาณการคลิกจากกลุ่มคนที่ไม่ต้องการซื้อของจริงๆ ก็ให้เราใช้ Nagative Keywords , Exact Matches, และกำหนดประเทศในการแสดงโฆษณา

5. 
หลีกเลี่ยง Keywords ที่มีการแข่งขันสูง – อย่าเสียเงินโดยใช่เหตุโดยการใส่ Bid สูงๆกับ Keywords ที่มีการแข่งขันกันเยอะ ให้เราทำหา Keywords ที่มีคนค้นหาน้อยแต่ว่าหามาหลายๆ Keywords ดีกว่าครับ เพราะว่า Keywords ที่มีคนค้นหาน้อยแต่ว่าหลายตัว ก็จะเท่ากับหรือมากกว่า Keywords ที่มีคนค้นหาเยอะแค่คำเดียว แถมยังมีราคา Bid ถูกมากๆครับ

6. 
ตั้งราคา Bid ใน Exact Matches Keywords ให้สูงกว่า Keywords แบบอื่น – ให้เราใช้ Exact Matches Keywordsร่วมด้วยกับ Matches แบบอื่นๆ แล้วก็ตั้งราคา Bid ให้สูงกว่าแบบอื่นเล็กน้อย เพราะว่า Google จะให้ความสำคัญกับExact Matches Keywords มากกว่า Matches แบบอื่นใน Keywords เดียวกัน เช่นใน group หนึ่งเราตั้งราคา Bid ไว้ที่0.10 เราก็กำหนดให้ Bid ของ Exact Matches Keywords เป็น 0.25 ดังตัวอย่างข้างล่างครับ
[ONLINE CASINO] ** 0.25
ONLINE CASINO
7. ใช้ Negative Keywords – ตัวโฆษณาของเราจะไม่แสดงถ้าเกิดว่าการค้นหามี Negative Keywords อยู่ด้วย ให้เราใส่ Negative Keywords ไปด้วย เพราะว่ายิ่งมี Negative Keywords มากเท่าไหร่ CTR ของเราก็จะยิ่งเพิ่มมากขั้นไปด้วย เป็นการประหยัดเงินแล้วก็ทำให้ตำแหน่งโฆษณาของเราสูงขึ้นด้วย ตัวอย่างเช่นสินค้าของเรานั้นเป็นแบบ premiumก็ให้เราใส่ Negative Keywords ที่ไม่เกี่ยวกับ premium ไว้ด้วย
[premium web hosting] ** 0.25
“premium web hosting” ,
-free ,-cheap ,-discount
8. ใช้ Landing Page ให้สัมพันธ์กับสินค้า – เพราะว่าถ้าหากลูกค้าคลิกที่โฆษณาแล้วไปที่หน้าที่ขายสินค้าทันที ก็จะทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าได้ง่าย อย่าลืมนะครับว่าลูกค้าของเรามีเวลาไม่มากในการค้นหา ถ้าเค้าเจอเว็บที่ไม่เกี่ยวข้องกับความต้องการของเค้า เค้าก็จะปิดเว็บนั้นไป เราก็จะเสียโอกาส

9. 
แยกการค้นหาแบบ Search และ Content Campaigns – มีหลายๆคนที่เสียเงินโดยใช่เหตุ เพราะว่าไม่ได้แยกการค้นหาแบบ Search และ Content ส่วนมากเราจะไม่รู้จะไม่สังเกตุว่า Google นั้นจะให้โฆษณาของเราไปปรากฏที่Google Content Network ด้วย เราจะต้องปิดบริการตัวนี้หรือว่าแยกเอาไว้เป็น ส่วน

10. 
ใช้ Ad หลายๆแผ่นแล้วนำมาเปรียบเทียบ (Split) – Google นั้นให้เราสร้างตัวโฆษณาหลายๆแผ่นใน Ad เดียวกัน ให้เราสร้างตัวโฆษณามาอย่างน้อย แผ่นเพื่อที่จะได้เปรียบเทียบว่าแผ่นไหนดีกว่ากัน ถ้าโฆษณาแผ่นไหนไม่ดีก็ให้ลบทิ้งแล้วก็สร้างใหม่ อาจจะแค่สลับบรรทัดหรือเปลี่ยนคำเป็นบางคำ

11. 
ติดตามผล – อย่าเชื่อในรายงานของ Google มากนัก ไม่ใช่ว่าไม่ดี แต่ว่าข้อมูลแค่นี้ไม่เพียงพอ เพราะว่าอาจจะมีการคลิกแกล้งให้เราเสียเงินแต่ไม่ซื้อสินค้าจากคู่แข่งของเราได้ ถ้าหากว่าไม่มี Tracking Software ก็ให้เราหาดาวโหลดมาใช้นะครับ

12. 
ใส่คำที่กระตุ้นให้อยากคลิกไว้ใน Headline – ให้เราเริ่มต้นด้วยคำที่กระตุ้นให้อยากคลิกเข้าไปดูเช่น “Free:, New:, Sale:, ect” แต่เราต้องเช็คด้วยว่าคำที่เราใช้นั้นทาง Google อนุญาตรึเปล่า

13. 
ใส่คำที่กระตุ้นให้อยากคลิกไว้ในตัวโฆษณา – ให้เราใส่คำที่ดูแล้วน่าคลิกเข้าไปเช่น “free, cheap, sale, special offer, time limited offer, tricks, you, tips, enhance, discover, fact, learn, at last, free shipping, ect. ตัวอย่างเช่น
* Buy Today – Save 50% ,* Download Free Trial Now ,* Sale Ends Tomorrow
14. ใส่คำที่ดูแล้วดูดีกว่าคู่แข่งคนอื่น – อะไรที่จะทำให้สินค้าของคุณดูดีกว่าหรือแตกต่างจากคู่แข่ง ให้เราใส่ไปในข้อความโฆษณาด้วย ตัวอย่างเช่นเว็บไซต์ Amazon.com จะเขียนข้อความไว้ในบรรทัดแรกว่า “Earth’s Biggest Bookstore” นี่เป็นคำที่ดูแล้วน่าเข้าไปดูในเว็บไซต์มาก

15. 
เอาคำที่ไม่มีประโยชน์ออก – ตัวอย่างเช่น “a, an, in, on, it, of” อย่าใส่คำพวกนี้ลงไปในตัวโฆษณา เพราะจะทำให้สิ้นเปลืองคำเปล่าๆ

16. ใส่ราคาลงไปในตัวโฆษณาด้วย – เพราะว่าจะทำให้คนที่ไม่มีศักยภาพในการซื้อไม่คลิกที่ตัวโฆษณาของเรา

เครื่องมือแนะนำ
Google Publisher Tools
หลากหลายเครื่องมือ ที่จำเป็น ของ Google ในการสร้างเว็บ ช่วยสร้าง วางแผน วิเคราะห์ เว็บไซต์
Google Sitemap Generator 
XML Sitemaps - สร้าง Google Sitemaps Online ฟรี
AdSense Help Center
ตัวช่วยในการทำ Google AdSense แบ่งเป็นหมวดหมู่ต่างๆ
Keyword Selector Tool
เครื่องมือช่วยหา Keyword ที่สัมพันธ์กัน หรือเกี่ยวข้องกับ Keyword หลัก
Good Keywords 
โปรแกรมฟรี สำหรับเช็ค ว่า Keyword มีคนใช้ค้นหามากแค่ไหน
Search Engine Saturation Checker
ตรวจสอบว่าหน้าเว็บไซต์เรา มีอยู่ใน Search Engine กี่หน้า
AdSense Toolbot
AdSense Check
Google Ads Preview
W3C Markup Validation Service



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น